Chapter 503:

วันนี้ไปต่ออายุหนังสือเดินทาง
ทำไมเพิ่งรู้ว่าเลือกทำแบบ 10 ปีก็ได้ล่ะ?
เพิ่งจะได้เลือกว่าอยากทำกี่ปีก็วันนี้นี่แหละ

จริงๆ ก็เคยได้ยินคนพูดถึงอยู่เหมือนกัน แต่ก่อนหน้านี้เวลาไปต่ออายุก็ไม่เห็นจะถูกถามว่าทำแบบกี่ปี ก็รับคิวแล้วเข้าไปทำแบบ 5 ปีมาตลอด เดี๋ยวนี้เค้าให้เลือกได้แล้วเหรอ? ก็แค่สงสัย แต่ก็ดีแล้วที่สามารถเลือกได้ บางทีทำแบบ 5 ปีแล้วมันหมดเร็วเหลือเกิน บางเล่มเดินทางไม่ถึง 3 ครั้ง หมดอายุแระ ทีนี้เวลามีเหตุที่จำเป็นต้องใช้เลขพาสปอร์ตก็ยากเลย ต้องไปทำใหม่ พอได้ทำแบบ 10 ปีก็หวังว่าจะได้ใช้แบบยาวๆ ไปอีกหน่อย

ทีแรกตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะไป MBK หรือกรมการกงสุล แจ้งวัฒนะ ดี?
ถ้าไป MBK ทำเล่มเสร็จก็เดินเล่นซื้อขอต่อได้ไง
แต่จากที่ทำงานไปกรมการกงสุลใกล้กว่ามาก
แถมยังเป็นสถานที่ original สำหรับการดำเนินการเรื่องหนังสือเดินทางด้วย
ก็เลย… ของยังไม่ต้องซื้อก็ได้ ตอนนี้อยากได้เลยพาสปอร์ตใหม่มากกว่า จะเอาไปจองบัตรคอน
สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไปทำเล่มที่กรมการกงสุล

เพราะเคยมีความคิดว่าจะไปทำที่ MBK ซึ่งเป็นสถานที่ทำหนังสือเดินทางที่ทำผ่านตู้ kiosk
ก็เลยได้หารีวิวอ่าน แล้วก็พบว่าดูจะเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับหลายๆ คน
ทำง่าย และใช้เวลาไม่นาน เป็นอะไรที่น่าสนใจ

พอไปถึงกรมการกงสุล ก็เลยขอทำผ่านตู้ kiosk ซึ่งมีน้องเจ้าหน้าที่นั่งเหงาๆ อยู่คนนึง ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องไปรับบัตรคิว คือน้องบอกให้เราไปรับบัตรคิว เราก็ไปรับ แต่แล้วระบบก็เรียกคิวเข้าไปข้างใน (แบบที่ต้องไปนั่งกับเจ้าหน้าที่) เราเลยบอกว่าอยากทำที่เครื่อง kiosk เจ้าหน้าที่ก็เลยจัดการให้ สุดท้ายก็ได้ทำที่เครื่องสมใจ มันง่ายมากจริงๆ นั่นแหละ ทุกอย่างเราแทบจะทำเองทั้งหมดเลย แต่ยังไงก็อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ด้วย ก็ไม่ต้องกังวลถ้ามีตรงไหนที่ไม่เข้าใจ เจ้าหน้าที่คอยช่วยอยู่แล้ว ตอนถ่ายรูปคือหน้าฉันแย่มาก เพราะว่ารีบ กลัวรถติด กลัวไปไม่ทัน กลัวคนเยอะ กลัวไปหมด รถก็ไม่มี ต้องเรียก grab แต่พอไปถึงนะ สิ่งที่กลัวไม่เกิดขึ้นเลยแม้แต่อย่างเดียว 55555 แต่หน้าก็เมือกไปแล้ว ไม่มีแป้ง ไม่มีหวี ก็เอาๆ เท่าที่ได้ ถ้าทำที่ตู้ kiosk อาจจะต้องเตรียมหวีเตรียมแป้งไปเองนะ จำได้ว่าถ้าทำกับเจ้าหน้าที่ข้างในบางคนเค้าจะมีอุปกรณ์ให้เราแต่สวยก่อนถ่ายรูป แต่อยู่หน้าตู้ไม่มีเด้อ ต้องช่วยตัวเองล่ะ แต่จุดนั้นเป้าหมายของเรามีแค่อย่างเดียวคือเลขพาสปอร์ตใหม่ เห็นรูปแล้วก็ไม่ได้แย่อะไรมาก เลยเอาอันนั้นแหละ ถ่ายเทคเดียวผ่าน แต่กลับมาก็รู้สึกลุ้น ว่าพอไปอยู่ในเล่มจะทุเรศมากมั้ยวะ 55555 หัวค่อนข้างฟูใช้ได้เลยทีเดียว 5555555555

ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว น้องเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปจ่ายเงินค่าพาสปอร์ต แล้วก็ค่าส่งไปรษณีย์ สรุปรวมแล้ว ใช้เวลาไปไม่ถึง 20 นาที เป็นระยะเวลาที่รวดเร็วมาก แล้วก็ได้เลขพาสปอร์ตใหม่สมใจ ตื่นเต้นมาก จะได้ซื้อบัตรคอนแล้วเว้ยยยย!!

แต่ว่า เสร็จเร็วจริง ทำไงต่อ? กลับไงดี? ทีแรกว่าจะเรียก grab แต่ขี้เกียจรอ เลยว่าจะโบกแท็กซี่แถวนั้น แล้วจู่ๆ ก็เงยหน้ามองสิ่งแวดล้อมรอบๆ แล้วก็พบว่า อ้าว!? รถไฟฟ้าสีชมพ!!! เอ้อ!! รถไฟฟ้าสีชมพูผ่านนี่หว่าาาาา ตาเป็นประกายเลย ชอบโมเม้นต์ที่ตัวเองระลึกได้ว่ามีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้าศูนย์ราชการฯ แล้วนี่แหละ มันช่างตื่นเต้น ไม่ต้องคิดต่อเลย ขึ้นรถไฟฟ้ากลับหอสิคะ รออะไร 😀

และแล้วก็ได้นั่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู เราไม่ชอบที่นั่งเลย แต่เราชอบบานประตูกระจกยาวนั้นมาก มันตื่นเต้นดีเวลามองออกไปนอกกระจก เห็นหมดเลยว่าอยู่สูงจากพื้นประมาณไหน สนุก 55555 … แล้วก็มาต่อสายสีเขียวเข้มกลับหอโดยสวัสดิภาพ

ช่วงนี้อากาศร้อนมาก แล้วคือเรารถเข้าศูนย์ซ่อมกันชนหลัง ก็เลยจะไม่มีรถใช้ไปประมาณหนึ่งอาทิตย์ ทีแรกก็สงสัยอยู่ว่าตัวเองจะเป็นยังไง เพราะหลังจากมีรถ เวลาไปไหนมาไหนก็มักจะขับรถตลอด จากที่ตอนแรกๆ ขับรถบ้าง ใช้รถสาธารณะบ้าง (เพราะว่ายังขับไม่เก่ง) แต่พอขับจนชินแล้วเท่านั้นแหละ เดี๋ยวนี้ไปไหนมาไหนก็จะคิดก่อนเลยว่าเอาไปรถไปได้มั้ย มีที่จอดมั้ย สะดวกมั้ย รถติดมั้ย ถ้ามันพอได้ก็จะขับรถไป เพราะงั้นตอนที่จะเอารถไปส่งศูนย์ก็ยังนึกสภาพตัวเองตอนไม่มีรถไม่ออก แต่ผ่านไปสองวันแล้ว ก็โอเคดีนะ รู้สึกว่าดีกว่าตอนมีรถในแง่ของการได้ค่อยๆ ใช้เวลากับตัวเอง คือเวลาขับรถมันต้องตื่นตัวตลอด มันต้องคอยระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุใดๆ ที่จะนำมาซึ่งความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของตัวเองและของคนอื่น เพราะงั้นมันก็จะมีความเครียดหน่อยๆ ตลอดแหละ เวลาขับรถ แต่ด้วยความที่เราชอบ มันก็เลยไม่ได้เครียดอะไรขนาดนั้น ก็เป็นความเครียดในระดับปกติที่คนขับรถแบบมีความรับผิดชอบทุกคนเป็นกัน (คิดว่านะ)

แต่พอไม่ได้ขับรถ มาใช้รถสาธารณะในสองวันนี้ มันเป็นอะไรที่รู้สึกเบาสบายขึ้นมาเฉยเลย คือมันไม่ต้องรู้สึกรับผิดชอบอะไรนอกจากตัวเอง คิดแค่ว่าจะไปตรงนี้ไปยังไงดี? มีรถไฟฟ้าผ่านมั้ย? ถ้ามีก็ใช้บริการรถไฟฟ้า นั่งไปสิ แอร์เย็นฉ่ำๆ ถึงจุดหมายแล้วก็เดินหน่อย ก็เดินเล่นไป บางจุดอาจต้องต่อรถมอไซต์บ้าง ก็นั่งไป ก็ผ่อนคลายดี ไม่ต้องคิดอะไรมาก เหมือนมีเวลาได้มองสิ่งแวดล้อมรอบข้างมากขึ้นและนานขึ้นอีกนิดนึงกว่าตอนขับรถเอง รู้สึกดีแบบที่ไม่ได้รู้สึกมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว

แต่กลับห้องมาก็เหนื่อยเลย อยากออกไปดูหนัง แต่ดูรอบแล้ว ไม่มีเวลาใกล้ๆ ตอนนั้น สรุปเลยไม่ไป และสั่งข้าวมากิน แล้วก็นอนพัก แล้วก็ตื่นมาเขียนบล๊อกนี่แหละ

เรื่องที่อยากเล่า ก็อยากจะเล่านะ
บล๊อกของเรามีไว้เพื่อการนี้
ทีแรกว่าจะเขียนเรื่องอะไรๆ ที่มันดูดีกว่าแค่เล่าเรื่องตัวเอง
แต่สิ่งที่เราถนัดที่สุดก็คือการเล่าเรื่องตัวเองแบบเรื่อยเปื่อยนี่แหละ
เพราะงั้น ก็จะเขียนแบบที่อยากเขียน อาจจะอ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ไม่เป็นไรนะ เพราะแม้แต่คนเขียนเองบางทีก็เขียนๆ ไปทั้งที่ไม่รู้เรื่องนั่นแหละ 5555555

กลับถึงห้องก็จองบัตรคอนเลย
แล้วก็ได้บัตรมาไว้ในมือแล้ววววว
เหลือแค่ตั๋วเครื่องบินกับที่พัก ซึ่งไม่ได้ยาก แต่ขอเวลาคิด(และทำใจ)หน่อย

เพราะไม่ใช่เมืองที่เราอยากไป แต่ศิลปินที่เราชอบเค้าเลือกไปเปิดคอนที่นั่น เมืองที่ดูดีกว่านั้นบัตรก็ขายหมดเกลี้ยงอย่างรวดเร็ว เหลือแต่เมืองที่ไม่ค่อยมีใครอยากไปนั่นแหละ คือถ้าเลือกได้ก็จะไม่ไป แต่ตอนนี้มันเลือกไม่ได้แล้วไง แต่จะไม่ไปมันก็ปวดใจ เราอยากไปไลฟ์ของศิลปินคนนี้มาก ทำไมไม่แวะมาไทย ทั้งที่ก็มามาเลเซียด้วยแท้ๆ เสียใจ T_T ส่วนเรื่องที่จะไปดูที่ญี่ปุ่นนั้น ให้มันเป็นเรื่องของอนาคตอันไกลเถอะ ตอนนี้ไม่มีเงินขนาดที่จะไปญี่ปุ่นได้หรอก เงินมันไปไหนหมดวะเนี่ย ไม่เข้าใจเลย ฮือออออ คือถ้าทำได้ก็อยากไปญี่ปุ่นนั่นแหละ ถึงแม้จะยังไม่มั่นใจเรื่องระบบการซื้อบัตรคอนก็เถอะ เพราะไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่นแล้วไง เราจะซื้อยังไง? ไปเสี่ยงเอาดาบหน้าก็ไม่ควรนะ เพราะคอนที่ญี่ปุ่นส่วนใหญ่บัตรขายหมด ถ้าไม่ได้เล่นในที่ใหญ่มากจริงๆ ส่วนใหญ่บัตรขายหมดเกลี้ยง แฟนๆ เค้าซัพพอร์ตศิลปินของตัวเองดีมาก เพราะงั้นต่างด้าวอย่างเรามันต้องมีตัวช่วยว่ะ ยกเว้นศิลปินบางคนจะใจดี เปิดขายบัตรสำหรับแฟนอินเตอร์ด้วย ศิลปินคนที่เราซื้อบัตรเค้านี้ก็เปิดรอบจองบัตรที่ญี่ปุ่นสำหรับแฟนอินเตอร์นะ แต่พอดีตัวเราเองไม่มีเงินไปญี่ปุ่น เลยไม่ได้ไปร่วมแย่งชิงด้วย ฮืออออ ปัญหามันอยู่ที่เงินนี่แหละ แง~~~~

นั่นแหละ ก็เลยต้องไปประเทศเพื่อนบ้าน
จะเป็นไงก็ไม่รู้ แต่ก็อยากเจอศิลปินที่ชอบ
ขอให้มันไม่แย่ ขอให้มันดี มีแต่ความประทับใจ

อาาาา … อยากไปเจอแล้ว
เดือน พ.ค. นี้ คอนเยอะนะ
Radwimps ก็อยากไปดู
ก็ว่าจะไม่ไปตลอดแหละ แต่เห็นสุดท้ายตัวเองก็ซื้อบัตรนะ
รอบนี้ก็คงจะซื้อ ก็ถึงขั้นไปเปิดบัตรใหม่เพื่อคอนนี้โดยเฉพาะแล้วอ่ะเนอะ
มันอะไรกันนะ? ก็แค่ โนดะ โยอิจิโร่ เท่านั้นเอง~ ฮือออออ

Leave a comment